วันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

การแต่งกายของชาวภูเก็ตในชนบท

การแต่งกายของชาวภูเก็ตในชนบท


คนไทยส่วนใหญ่มักอาศัยอยู่นอกเมืองออกไป เช่น บริเวณบ้านฉลอง บ้านป่าตอง บ้านเคียน บ้านดอน บ้านสาคู อาชีพของชาวบ้านทั่วไปส่วนใหญ่ ทำสวน ทำนา ทำไร่ ร่อนแร่ ฐานะค่อนข้างยากจนหรือพอมีพอกิน จากการบอกเล่าของ นายเลียบ ชนะศึก ประธานสภาวัฒนธรรมถลางกล่าวว่า ผู้หญิงที่ค่อนข้างยากจนหรือพอมีพอกิน นิยมนุ่งโจงกระเบน คาดเข็มขัดเงินหรือเข็มขัดหนัง แล้วแต่ฐานะ ผ้าโจงกระเบนเป็นผ้าดำผ้าสีทึบ หรือผ้าลายดอกพิกุล เสื้อคอกลมแขนกระบอก ไม่รัดรูปมากนัก ถ้าเป็นคนเฒ่าคนแก่ก็จะสวมสื้อหลวม ๆ (เฉพาะไปวัดไม่สวมรองเท้า ถือเชี่ยนหรือตะกร้าหมาก) ส่วนเด็กผู้หญิงจนถึงผู้หญิงสาว นิยมนุ่งผ้าถุงเป็นผ้าพื้นหรือผ้าลาย แต่เด็กผู้หญิงจะสวมเสื้อคอกระเช้า

ส่วนหญิงสาวสวมเสื้อตามสมัยนิยม ถ้าออกจากบ้านก็สวมเสื้อสามส่วนเข้ารูป ลักษณะการแต่งกายส่วนใหญ่ก็ได้รูปแบบมาจากภาคกลาง ต่อมาเมื่อคนจนได้เข้ามาในภูเก็ตมากขึ้น คนไทยส่วนหนึ่งก็เปลี่ยนแปลงรูปแบบการแต่งกายโดยรับเอาการนุ่งโสร่งปาเต๊ะมานุ่งแทนผ้าถุงเดิม แต่ลักษณะเสื้อผ้ายังคงเดม ผู้หญิงวัยกลางคนจนถึงสูงอายุ นิยมกระโจมอกอยู่บ้าน สำหรับเด็ก ๆ นุ่งผ้าถุงไม่สวมเสื้อ

สำหรับคนไทยที่เป็นข้าราชการ ก็แต่งกายแบบข้าราชการในราชสำนักทุกประการคือ นุ่งผ้าโจงกระเบน สวมเสื้อกระดุม 5 เม็ด คอตั้ง และมีการเปลี่ยนแปลงไปตามลักษณะการแต่งกายของแต่ละยุคสมัย เช่น รัชกาลที่ 5 เป็นต้นมา ข้าราชการชายรุ่งผ้าม่วงสวมเสื้อราชปะแตน ผู้หญิงก็นุ่งซิ่น สวมเสื้อตามแบบพระราชนิยม ข้าราชการพลเรือนไทยเปลี่ยนจากนุ่งผ้าโจงกระเบนนุ่งกางเกงแบบสากล ในสมัยหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง (หลังพ.ศ. 2475)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น