พระยาเพชรคีรีศรีพิชัยสงครามรามคำแหง (เทียน)
ในพงศาวดารเมืองถลาง ได้กล่าวถึง พระยาถลาง (เทียน) ว่า เป็นบุตรหม่อมภักดีภูธรกับท่านผู้หญิงจัน มีพี่สาว 1 คน ชื่อ ปราง พระยาถลาง (เทียน) เกิดที่เมืองตะกั่วทุ่ง และได้อยู่ที่เมืองตะกั่วทุ่งจนกระทั่งหม่อมศรีภักดี ถึงแก่กรรม จึงได้ตามมารดามาอยู่ที่บ้านตะเคียน พระยาถลาง (เทียน) เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการต่อสู้กับพม่า ในศึกถลาง ปี พ.ศ.2328
ในขณะที่พระยาถลางพิมล (ขัน) บิดาเลี้ยงได้ปกครองเมืองถลาง พระยาถลาง (เทียน) ได้รับบรรดาศักดิ์เป็น เมืองภูเก็ต (จากหลักฐานจดหมายเหตุเมืองถลางใช้ “จ” สะกด) เป็นเจ้าเมืองภูเก็ต เมื่อบิดาเลี้ยงถึงแก่กรรม ก็ได้ช่วยมารดาสู้รบกับพม่า หลังศึกพม่า พระภูเก็ต (เทียน) ได้รับความดีความชอบมีบรรดาศักดิ์เป็น พระยาทุกรราช (เทียน) เจ้าเมืองภูเก็ต และได้รับตำแหน่งพระยาปลัดเมืองถลางอีกหนึ่งตำแหน่ง
ในปี พ.ศ.2333 พระยาทุกรราช (เทียน) ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็น พระยาเพชรคีรีศรีพิชัยสงครามรามคำแหง (เทียน) ในปี พ.ศ.2336 ได้รับคำสั่งให้นำกองทัพไปสมทบกับกองทัพเรือของสมเด็จพระอนุชาธิราชเจ้า กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาถ ที่ช่องด่านสิงขร เมืองประจวบคีรีขันธ์ ไปทำศึกกับพม่า แย่งเมืองมะริด ทวาย และตะนาวศรี แต่ไม่สำเร็จ เพราะกองทัพบกไปเสียทีพม่าที่ลำน้ำน้อยเมืองกาญจนบุรีเสียก่อน พระยาเพชรคีรีศรีพิชัยสงครามรามคำแหง (เทียน) ได้กลับมายังเมืองถลางโดยปลอดภัย และได้ปกครองเมืองถลางมาถึง 20 ปี
จนถึงปี พ.ศ. 2352 เมืองถลางถูกพม่าโจมตีอีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้พม่าตีเมืองถลางแตก ปล้นเอาทรัพย์สินของเมืองถลางไปเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะแร่ดีบุกที่ถลุงไว้แล้ว หลังจากเมืองถลางแตก นายประสิทธิ ชิณการณ์ นักประวัติศาสตร์ท้องถิ่น สันนิษฐานว่าท่านและครอบครัวอาจจะถูกพม่าจับตัวไปยังกรุงอังวะ จากนั้นข่าวคราวต่างๆ ก็สูญหายไปด้วย
พระยาเพชรคีรีศรีพิชัยสงครามรามคำแหง (เทียน) มีบุตรชาย-หญิงกี่คนไม่ปรากฏชัดเจน เพียงแต่มีกล่าวในพงศาวดารถลางปรากฏหลักฐานในหนังสือประชุมพงศาวดารฉบับหอสมุดแห่งชาติ ภาค 2 ว่า มีบุตรชาย 2 คน ชื่อ ศึก กับชื่อ เสือ ทั้ง 2 ท่านนี้เป็นที่ยอมรับของผู้สืบสกุล
พระยาเพชรคีรีศรีพิชัยสงครามรามคำแหง (เทียน) เป็นบุคคลในสายสกุล “ประทีป ณ ถลาง”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น